เทศน์เช้า วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๙
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เอาเนาะ เรามีหนังสือใหม่เนาะ เมื่อวานเขาเอาหนังสือมาส่ง ธรรมะเก็บตก ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ เมื่อวานเปิดอ่านไง ธรรมะเก็บตก ๑๐ อ่านเพราะเราเทศน์มาเอง เทศน์เช้า แล้วเวลาไปอ่าน ธรรมะกินไม่ได้ ธรรมะกินไม่ได้ ถ้าธรรมะกินได้ เราต้องการเวลาทำบุญกุศล ต้องการร่ำต้องการรวย อยากมีประสบความสำเร็จในชีวิตต่างๆ นี่มันเป็นเรื่องโลกๆ ไง
แต่สัจจะความจริงๆ ธรรมะกินไม่ได้ แต่เราอธิบายไปแล้ว ธรรมะกินไม่ได้ แต่ธรรมะเปลี่ยนนิสัยคนได้ ธรรมะสำรอกคายกิเลสได้ ธรรมะทำให้คนที่จิตใจที่มันทุกข์มันยากให้มันมีความสุขสงบได้
นี่ไง เวลาเราเทศน์ทุกวัน เวลาร่างกายนี้มันต้องการปัจจัยเครื่องอาศัย หัวใจของเรา หัวใจเราต้องการธรรมๆ ถ้าต้องการธรรม ธรรมมันคืออะไรล่ะ ธรรมมันคืออะไร เราแสวงหาอะไร ทองคำก็เป็นทองคำ เงินมันก็เป็นเงิน แร่ธาตุมันก็เป็นแร่ธาตุ สัจธรรมเป็นสัจธรรม สัจธรรมมันอยู่ที่ไหนล่ะ สัจธรรมน่ะ
เวลาเราศึกษามา ศึกษามาก็เป็นปริยัติ คำว่า “ปริยัติ” ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นทฤษฎี เป็นความจริงในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้ววางธรรมวินัยนี้ไว้แล้วเราไปศึกษามามันเป็นทฤษฎี แต่ถ้าเราทำจริงๆ มันทำจริงขึ้นมา เห็นไหม
ชามข้าวไม่มีอาหารเลย มันก็เป็นชามข้าวเปล่าๆ น่ะ นี่ก็เหมือนกัน เรามีหัวใจ เราเป็นมนุษย์ขึ้นมา มันก็เป็นหัวใจเปล่าๆ มันไม่มีสัจจะไม่มีความจริงขึ้นมา เห็นไหม ถ้าเราประพฤติปฏิบัติความจริงขึ้นมาๆ ธรรมะกินไม่ได้ แต่หัวใจมันปราบปลื้ม หัวใจมันอบอุ่น ธรรมะมันเป็นสัจธรรมอย่างนั้นไง นี่ไง มันเหมือนไก่ได้พลอยๆ ไง
เวลามันเห็นแล้วมันสังเวชนะ เวลาสังเวช ดูสิ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงธรรมๆ สิ่งที่แสดงธรรมๆ ถ้าใครได้สัจธรรมอันนั้นขึ้นมาในหัวใจ ถ้าได้สัจธรรมขึ้นมาในหัวใจ เขาเป็นคนดีของเขาขึ้นมา เขามีสติมีปัญญาของเขา เขาขวนขวายของเขา แล้วมันก็เป็นบุญกุศล เรามาทำบุญทำคุณ บุญกุศล บุญมันเป็นอย่างไร
ดูสิ หลวงปู่ฝั้นท่านไปข้ามแม่น้ำโขง เวลาพระกรรมฐาน พระกรรมฐานมันก็ไม่มีปัจจัยติดตัวไป เวลาจะข้ามแม่น้ำโขง เรือจ้างพายข้ามฟากไง เอาบุญเนาะ แล้วก่อนจะไปเราก็บอกเขาก่อน เอาบุญเนาะ เพราะไม่มีตังค์หรอก เอาบุญเนาะ ไอ้คนพายก็บอกเอาบุญ เวลามันพายข้ามไปส่งฝั่งลาวเสร็จแล้ว เอาบุญมา พอเอาบุญมา
นี่ท่านเล่าต่อๆ กันมา ท่านบอกท่านคิดได้ ท่านคิดได้ว่า โยมคนนี้เขาไม่รู้จักว่าบุญมันคืออย่างไร เขาถึงบอกเวลาจะเอาบุญ เอาบุญมา เขาคิดว่าเวลาเขาพายเรือข้ามฟากเขาได้เงินได้ทองเป็นเครื่องตอบแทนใช่ไหม ถ้าเอาบุญ เอาบุญก็ต้องมีบุญตอบแทนใช่ไหม ถ้าเขาเข้าใจไม่ได้ นี่ท่านเล่าเองนะ ท่านเลยแคะขี้มูกเลย แล้วก็ยื่นใส่มือเขา แล้วมันก็ซื่อจริงๆ นะ มันก็ลองกินดู โอ้โฮ! บุญมันเค็มๆ เนาะ บุญมันเค็มๆ
ไม่รู้จักก็ไม่รู้จักจริงๆ ถ้าคนไม่รู้จักบุญมันคืออะไร บุญ ผู้ทรงศีลท่านข้ามฟาก เราได้ข้ามฟากไปแล้ว บุญกุศลเราได้ช่วยเหลือเจือจาน มันอิ่มอกอิ่มใจ นั่นมันเป็นบุญ บุญมันเป็นอย่างนั้น ถ้าผู้ที่มีสติมีปัญญาที่เข้าใจได้มันก็เข้าใจได้ไง ถ้ามันเข้าใจไม่ได้ๆ มันเป็นของส่วนบุคคลๆ ไง
นี่ไง ดูสิ เวลาที่วัดป่าบ้านตาดมันมีปัญหากัน ถ้าปัญหากัน มันเป็นบุญกุศล มันเป็นวาสนา มันเป็นบารมีของหลวงตา ครูบาอาจารย์ที่เป็นธรรม มันเป็นอำนาจวาสนาบารมีของหลวงปู่เสาร์ มันเป็นอำนาจวาสนาของหลวงปู่มั่น ท่านทำของท่านแล้ว หลวงปู่มั่นท่านมีชื่อเสียงคับฟ้า เวลาเราไปประพฤติปฏิบัติ เราไปฝึกหัดขึ้นมา ถ้าเรามีสติมีปัญญาขึ้นมา เราก็ได้ความจริงของเราขึ้นมา ถ้าได้ความจริงขึ้นมามันก็เป็นบุญกุศลของเรา
ถ้าบุญกุศลของเรา เราไม่มีอำนาจวาสนาของเรา เราก็ขวนขวายของเรา ขวนขวายทำแล้วคว้าน้ำเหลวๆ เห็นไหม มันของส่วนบุคคลๆ มันเป็นอำนาจวาสนาของท่าน มันเป็นบารมีของท่าน
แล้วบารมีของท่าน แล้วผู้รับ ผู้รับ ดูสิ ครูบาอาจารย์ที่ท่านรับได้ หลวงปู่ลีท่านมีคุณธรรมในหัวใจ เวลาท่านรับมามันไม่มีอะไรกระทบกระเทือนกันเลยไง หัวใจ จิตใจดวงหนึ่งสู่ใจดวงหนึ่ง ใจดวงหนึ่งที่สะอาดบริสุทธิ์มีคุณธรรมในหัวใจ ถ้าหัวใจที่มีคุณธรรมรับมาด้วยคุณธรรม มันก็เป็นคุณธรรมเหมือนกัน นี่ไง ถ้ามันมีหัวใจที่มันเป็นธรรม หัวใจที่มีคุณธรรมพอ มันรับสิ่งนั้นมาแล้วมันไม่กระทบกระเทือนใครทั้งสิ้น มันเป็นสมบัติของหลวงตา มันเป็นสมบัติของครูบาอาจารย์ของเราที่ท่านสร้างของท่านมา
ไอ้พวกเรา นี่ไง ปกป้องมรดก มรดกอะไร ไก่ได้พลอย ไก่ได้พลอยมันไม่รู้อะไรเป็นธรรม อะไรไม่เป็นธรรมไง
สิ่งที่เป็นธรรมๆ เป็นธรรมคือความถูกต้องดีงาม ความเป็นธรรม เหตุและผลรวมลงเป็นธรรม สิ่งที่เราเจรจากัน เราคุยกัน สิ่งใดที่มันสรุปลงเป็นเหตุเป็นผล อันนั้นต้องเป็นข้อสรุป มันต้องมีเหตุมีผลสิ มันต้องยอมรับความจริงสิ ยอมรับข้อเท็จจริงสิ แล้วยอมรับข้อเท็จจริง ดูสิ รักษามรดกๆ เรารักษามรดก แล้วเจ้าของมรดกล่ะ
เจ้าของมรดกเขามีความปรารถนาอย่างนั้น แล้วเวลาเราเป็นผู้รักษามรดกแล้วเราจะบิดเบือนเอาตามความพอใจของเรา ไก่ได้พลอยๆ มันบอกว่ารักษามรดก มรดกอะไรของเอ็ง เอ็งมีอำนาจวาสนาอะไร เอ็งมีความเข้าใจอย่างไร
นี่ไง ธรรมกินไม่ได้ๆ ธรรมมันกินไม่ได้หรอก แต่มันมีเหตุมีผลเหนือโลกนะ มันมีเหตุมีผลทำให้เราไม่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะแล้วกันแหละ สิ่งที่บุญกุศล บุญกุศลที่เราทำกันมา บุญกุศลเราทำกันมา จิตใจชื่นบาน เราทำสิ่งใดประสบความสำเร็จทางโลกและทางธรรม ทางโลกที่เราทำกันมา ขอให้ร่ำขอให้รวย ขอให้ประสบความสำเร็จ นั่นทางโลก
ถ้าเราทำของเรานะ ถ้ามีอำนาจวาสนา มันทำแล้วมันขวนขวาย คนที่มีอำนาจวาสนาคือเขามีสติมีปัญญาของเขา เขาไม่ประมาทของเขา เขามีความรอบคอบของเขา นั่นเพราะเขาสร้างของเขามาไง ไอ้เรามันประมาทเลินเล่อ ไอ้เราทำอะไรก็ผลุบผลับๆ ทำอะไรก็ทำไม่จริงไม่จังไง แล้วก็บอกว่าเรามีวาสนา
วาสนาอะไรน่ะ มันทิ้งร่องรอยไว้ทั้งนั้นน่ะ ถ้ามีวาสนา มันมีวาสนาตั้งแต่ตรงนี้ไง ถ้ามีวาสนาตรงนี้แล้วทำอะไรขึ้นไปมันก็รอบคอบ มันจะมีอะไรรั่วไหลไปล่ะ มันก็เป็นประโยชน์กับเราทั้งนั้นน่ะ นั่นคืออำนาจวาสนาของเขา ถ้าใครมีอำนาจวาสนาทำสิ่งใดมันก็เป็นประโยชน์ของเขา ธรรมะกินไม่ได้ๆ แต่ธรรมะมีคุณค่ามาก มีคุณค่าจนคนที่มีจิตใจที่เป็นธรรมๆ ไง
ไอ้นี่มันไก่ได้พลอย ไก่ได้พลอยไม่รู้จักคุณค่าของธรรมไง ไม่รู้จักอำนาจวาสนา ไม่รู้จักว่าเป็นสมบัติของใครไง เจ้าของมรดก เจ้าของมรดกก็คือตัวท่าน แต่นี่เราบอกว่าจะรักษามรดก
ก็คำว่า “รักษา” คำว่า “รักษา” ก็คือความเห็น ความเห็นของคนก็มากระทบกระเทือนกัน นี่ไง มันไก่ได้พลอยทั้งนั้นน่ะ มันไม่เป็นความจริง
ถ้าเวลาความจริงขึ้นมานะ ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยเหตุด้วยผล เวลาคุยกันต่อหน้าไง มันก็รู้ๆ อยู่ว่าถูกหรือผิดใช่ไหม เราก็รู้ ดูสิ กรรมฐานเขาอยู่กันอย่างไร ครูบาอาจารย์ท่านทำมาอย่างไร ดูสิ เวลาหลวงตาท่านเคารพหลวงปู่มั่นขนาดไหน ถ้าเคารพหลวงปู่มั่น เจดีย์หลวงปู่มั่น ท่านก็เป็นคนสร้างให้เองด้วย แล้วสร้างแบบใต้ดินด้วย ไม่มีใครรู้เลย สร้างไว้นอกวัดต่างหาก ให้ประชาชนได้กราบได้ไหว้ไง แล้วท่านพยายามเขียนประวัติขึ้นมา คุณธรรมของท่าน ให้ประชาชนได้เข้าใจไง เวลาเข้าใจไปแล้วเขาเป็นประโยชน์ของเขาไง ประโยชน์ของเขา บุญของเขา ในหัวใจของเขา เขารับรู้ของเขา
พวกเรามันว้าเหว่ ดูสิ ทุกคนก็บอกพระพุทธศาสนายอดเยี่ยมมากเลย แต่ประชากรในประเทศไทยไม่มีศีลไม่มีธรรมเลย ทำไมมันเป็นอย่างนั้นน่ะ เพราะมันไม่เข้าไปถึงหัวใจไง เพราะมันไม่ทำของมันเป็นความจริงไง ถ้าความเป็นจริงขึ้นมา กิเลสมันก็บอกเลย เราเสียเปรียบเขา เราไม่ได้อย่างเขา
ไปดูคลังสินค้าสิ คลังสินค้า สินค้าที่ไม่ได้ออกมาอยู่ในคลังมหาศาลเลย เป็นของใครน่ะ นี่ก็เหมือนกัน เราอยากได้วัตถุๆ ไง แต่เราไม่ได้อยากได้หัวใจของเราไง เราไม่อยากได้คุณธรรมในหัวใจของเราไง ก็อยากได้เหมือนเขา เราเสียเปรียบๆ เสียเปรียบก็คลังสินค้านั่นน่ะ เขาตีกลับนะ มันผิดกฎหมาย ไม่ให้เข้ามาหรอก
นี่ก็เหมือนกัน มันไม่ใช่ของเราๆ ไม่ใช่ของเรา เราก็ไม่ไปยุ่งไปเกี่ยวน่ะ ถ้าของเรา ของเรา เรายังเสียสละเลย ของเรายังทำเพื่อประโยชน์เลย แล้วนั่นไม่ใช่ของเราแล้วเราจะไปยุ่งทำไมไง ถ้ามันมีสติมีปัญญาอย่างนั้นมันก็ไม่เสียเปรียบ ไม่เสียเปรียบมันก็ทำได้ไง นี่ทำอะไรไม่ลงเลย เสียเปรียบไปหมด มันจะเอาชนะคะคานกัน มันจะเอาให้คนเขายอมรับไง
ลาภสักการะ ลาภก็อยากได้ ของวัตถุก็อยากได้ ยังต้องการสักการะอีก ต้องการให้เขายอมจำนนอีก แต่ในทางอาชญากรรม เวลาเขาสืบประวัติๆ มันมีประวัติ มันมีที่มาที่ไป คนคนหนึ่งมีพ่อมีแม่ มีถิ่นเกิด สืบประวัติได้ทั้งนั้นน่ะ
นี่ก็เหมือนกัน พระบวชมาแต่ละองค์ บวชมาจากไหน อุปัชฌาย์เป็นอย่างไร บวชที่ไหน จำพรรษามาอย่างไร ได้ไปสร้างวีรกรรมไว้ที่ไหนบ้าง มันสืบประวัติได้หมดน่ะ แล้วมันจะมาบอกว่าฉันทำดีๆ
ทำดีไม่ทำดี สืบประวัติเขาสืบได้ทั้งนั้นน่ะ ทางการข่าวเขาทำได้ทั้งนั้นน่ะ ไอ้นั่น เห็นไหม แล้วมันไม่ต้องมาอวดกันหรอก ไม่มีความหมาย เราทำความจริงของเรา ถ้าความจริงของเรา ถ้าธรรมะกินไม่ได้
เราจะเอาธรรมะที่กินได้ไง เอาชื่อเอาเสียง เอาสักการะ เอาความพอใจของเราไง จะเอามาเป็นประโยชน์กับเราไง จะเอามากินได้ไง นั่นน่ะไก่ได้พลอย มันเรื่องโลกธรรม ๘ โลกธรรม ๘ ธรรมะเก่าแก่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ตรัสรู้ก็มีอยู่แล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อยู่ มันก็กระหน่ำใส่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วมันก็มีของมันต่อไป โลกธรรม ๘
โลกธรรม ๘ ธรรมะเก่าแก่ประจำโลก ไม่ใช่สัจธรรมๆ บวชมาเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรสก็เป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะ มันประพฤติปฏิบัติให้เกิดมรรคเกิดผลขึ้นมาในใจของตน ถ้าเกิดมรรคเกิดผลขึ้นมาในใจของตน สิ่งที่สำรอกสิ่งที่มันคายออก มันจะเป็นธรรมะ ธรรมะที่เป็นประโยชน์กับหัวใจไง ธรรมเหนือโลกๆ คุณธรรมอันนี้ขึ้นมาไง มันไม่ใช่ไก่ได้พลอยไง
ธรรมะกินไม่ได้ ธรรมะกินไม่ได้ มันเป็นความเห็นของโลก เราก็เทศน์ไปเนาะ เพราะโลกเขาคิดกันอย่างนั้นไง แล้วธรรมะเป็นอย่างไรล่ะ นี่ไง บุญก็เค็มๆ นั่นไง ถ้ามันไม่รู้จักบุญของมันเลยไง แต่ถ้ามันทำของมันแล้วมันจะรู้ของมันขึ้นมา
บุญมันคืออะไร สิ่งใด เรื่องความเป็นไปของโลกมันก็เป็นของมันอยู่อย่างนี้ แล้วถ้าเรามีสติมีปัญญาของเรา เราได้ทำของเราสมบูรณ์แล้ว ศีล สมาธิ ปัญญา เราได้ทาน เราได้รักษาศีล เราไม่ผิดศีล เราทำหน้าที่การงานของเราด้วยความสมบูรณ์ มันผิดตรงไหน มันมีอะไรขาดตกบกพร่อง ถ้ามันไม่ผิดตรงไหน ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง อะไรมันจะยิ่งใหญ่กว่าหัวใจของเรา ถ้าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ประสบความสำเร็จก็ทำอีก ทำไม
คนเราจะล่วงพ้นทุกข์ด้วยความเพียร เราทำหน้าที่การงานของเรา เรามีอาชีพของเรา เราก็จะมุมานะของเรา ถ้าเกิดเจ้านายไม่ดี ผู้ร่วมงานไม่ดี ไม่ดีก็คือไม่ดี ไม่ดี เราก็ทำของเรา เพราะเราเกิดมาอย่างนี้ เรามาประสบเหตุการณ์อย่างนี้ เราเกิดมาด้วยสภาคกรรม เราเกิดมาแล้วเราร่วมสังคมเดียวกัน ในสังคมเดียวกัน ดูสิ เวลามีคู่ขัดแย้ง มันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไปมันถึงจะจบไง แล้วถ้ามันไม่จบขึ้นมามันก็ขัดแย้งกันไปอยู่อย่างนั้นในสังคม ในชุมชนใดก็แล้วแต่ ถ้ามีคู่ขัดแย้ง ดูสิ ในทางการเมือง ถ้าสมัครเป็นคู่ มันต้องฟาดฟันกันไปจนจบไปข้างหนึ่ง มันเวรกรรมอะไรของมันไปเจออย่างนั้นน่ะ นี่ก็เหมือนกัน เราเจอสภาพแบบนี้ เราก็มีสติปัญญาของเราไง รักษาหัวใจของเรา รักษาหัวใจของเรา
หลวงตาท่านสอนประจำนะ ใครจะดีใครจะชั่วอย่างไรเรื่องของเขา เราดูแลหัวใจของเราว่ะ
เราเกิดร่วม เกิดมาเจอกันน่ะ เกิดมาเจอกัน ถ้าเราเจอสิ่งที่ไม่ดีๆ ไม่ดีก็คือไม่ดีของเขา เราทำคุณงามความดีของเรา แต่มันทำไม่ได้ เพราะอะไร เพราะเราก็ทุกข์ก็ยากอยู่แล้ว แล้วเราจะหาจำเลยมารับความผิดอันนี้ไง ไอ้นู่นไอ้นี่ ไอ้นี่ไอ้นั่น ส่งไปหมดเลย แล้วตัวเราล่ะ เราจะปล่อยให้บ้านเราร้างใช่ไหม
ถ้าเราไม่ปล่อยให้บ้านเราร้าง ธรรมะมันกินไม่ได้ แต่ถ้ามีธรรมะกลับมานะ ธรรมะกลับมาในหัวใจของเรา ถ้าธรรมะกลับมาในหัวใจของเรา เราเป็นธรรม เรายิ่งอยู่ในเหตุการณ์ อยู่ในสภาวะที่มันกระทบกระเทือนรุนแรง เรายิ่งมีสติปัญญาของเรา
เวลาคนที่ภาวนาทุกคนจะบอกเลย มันไม่มีงานทำ มันนั่งแล้วมันจืดชืด มันไม่มีอะไรทำ ไอ้นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราอยู่ในสังคมสิ่งใดที่มันกระทบ นั่นแหละมันกระทบแล้ว หัวใจมันรุนแรงแล้ว
รูป รส กลิ่น เสียงเป็นบ่วงของมาร เป็นพวงดอกไม้แห่งมาร นี่มันเป็นบ่วง มันเป็นพญามารแล้ว ที่เวลามันกระทบกระเทือนในหัวใจน่ะ ถ้ามีสติมีปัญญา ถ้ามีสติปัญญา นี่คือธรรมไง ธรรมโอสถสามารถดับไฟได้ไง ธรรมโอสถสามารถดับได้ไง แล้วถ้ามันดับได้ มันรู้ของมันนะ มันมีเหตุมีผลของมัน มันยอมรับเหตุรับผล รับเหตุผลจากหัวใจ รับเหตุรับผลเพราะธรรมะมันชนะอธรรม
ในเมื่อสัจธรรมมันเกิดขึ้นในหัวใจ กิเลสมันต้องสงบตัวลง กิเลสมันต้องหมอบตัวลง ถ้าหมอบตัวลงแล้ว ถ้ามันมีสัจจะมีความจริงขึ้นมาอย่างนี้ พอว่าจะรักษามรดกธรรม มันก็เข้าใจไง อ๋อ! มรดกมันเกิดจากตรงนี้ ถ้ามันเกิดมรดกอย่างนี้แล้ว มรดกจากใจดวงหนึ่งสู่ใจดวงหนึ่ง ใจที่มีคุณธรรมเหมือนกันน่ะ มันมีอะไรขัดแย้ง มันมีอะไรขัดแย้ง ถ้าเป็นธรรมะเหมือนกันมันมีอะไรขัดแย้ง
ดูสิ เวลาแม่น้ำไหลลงสู่ลำคลอง ถ้าแม่น้ำไม่มีสารพิษลงไปในลำคลอง มันจะเพิ่มจำนวนน้ำให้มากขึ้นๆ เพราะอะไร เพราะแม่น้ำหลายๆ สายมันไหลไปรวมกันใช่ไหม หลายสาขา นี่ก็เหมือนกัน ความรู้สึกนึกคิดของเราที่มันอยู่ในหัวใจของเรา ถ้าเราดูแลรักษาด้วยคุณธรรมของเรา เวลามันเป็นสัจจะเป็นความจริงขึ้นมา นี่ไง จากใจดวงหนึ่งสู่ใจดวงหนึ่งไง มันเป็นอันเดียวกัน แม่น้ำทุกแม่น้ำมันไหลรวมกัน มันมีขัดแย้งกันตรงไหน มันมีอะไรขัดแย้งบ้างถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา
มันไม่เป็นความจริงสิ มันเป็นน้ำเสียจากโรงงานที่มันปล่อยสารพิษลงไปน่ะ ชาวบ้านเขาเดินขบวน เขาพยายามปิดกั้นไม่ให้มาไง นี่ก็เหมือนกัน รักษามรดกๆ น้ำเสียหรือน้ำดี มันเข้ากันได้หรือไม่ ถ้ามันเข้ากันได้ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น มันมีปัญหากันนี่ไง นี่ไง มันไก่ได้พลอยๆ มันรับรู้สิ่งนั้นไม่ได้ แต่เวลาเข้าใจก็เข้าใจเป็นเรื่องโลกธรรม ๘ นะ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ ไปเข้าใจกันตรงนั้นน่ะว่านั่นเป็นธรรม นี่โลกธรรม ๘ โลกธรรม ธรรมของโลก ไม่ใช่ธรรมของธรรม มีโลกกับธรรมๆ โลกคือโลก ธรรมคือธรรม อยู่ด้วยกันๆ แต่มันไพล่ไปเอาโลกไง แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นนะ นี่มรดกๆ
มรดกของใคร ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นมรดกของใคร เป็นมรดกของใคร มันเป็นสมบัติสาธารณะ ถ้าสมบัติสาธารณะ ทุกคนเป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช่ไหม เราเป็นชาวพุทธ เราเป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า ใครจะมาบังคับบอกว่าเราห้ามนับถือพระพุทธเจ้าหรือ เรานับถือของเราน่ะ ทำไม
นี่ก็เหมือนกัน ถ้าครูบาอาจารย์ท่านทำประโยชน์ของท่าน มันเป็นประโยชน์ของท่าน มันเป็นอำนาจวาสนาบารมีของท่าน ท่านทำของท่านไว้ให้กับโลก มันควรจะเป็นธรรมไง มันไม่ควรจะเป็นสารพิษ มันไม่ควรทำให้เกิดบาดหมางน้ำใจกัน สิ่งที่เป็นธรรมๆ มา มันควรจะเป็นอะไร
ดูตาน้ำสิ ตาน้ำที่ใสสะอาดขึ้นมาเป็นแม่น้ำแหล่งน้ำขึ้นมา มันจะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ที่ไหนมีแหล่งน้ำ ที่มันมีปลา มันมีอาหาร มันมีทุกอย่างเลย นี่แหล่งน้ำ
นี่ไง คุณธรรม คุณธรรมท่านทำของท่านไว้ แล้วมันเสียหายอย่างไร ธรรมะกินไม่ได้ๆ ธรรมะที่มันมีคุณธรรมแล้ว มันมีหลักเลย มีหลักใจเป็นตัวอย่าง สมณสารูป ทุกอย่างมันเป็นคุณงามความดีไปหมด ฉะนั้น มันก็ย้อนกลับมา ย้อนกลับมาในวงกรรมฐานเรา ถ้าวงกรรมฐานเรา เวลาท่านครูบาอาจารย์แสดงธรรมๆ ที่นุ่มนวลอ่อนหวานก็มี
หลวงตาท่านพูดบ่อยว่าหลวงปู่ฝั้นท่านพูดนุ่มนวลมาก พุทโธสว่างไสว พุทโธผ่องใส ใครฟังแล้ว แหม! ชื่นใจไปหมดเลย แต่เวลาของท่าน โอ้โฮ! ยิงอย่างกับปืนกลเลย พรืดๆ นั่นมันเป็นจริตนิสัยของคน จริตนิสัยของคนไง แต่มันมีคุณธรรมหรือไม่ ถ้ามีคุณธรรมหรือไม่ มันไม่มีการขัดแย้งกันเลย ดูสิ มีการเคารพบูชากันทั้งสิ้น มีการเคารพบูชาตามอาวุโสภันเต อาวุโส ผู้ที่มีคุณธรรมท่านเดินหน้าไปก่อน มันปกป้องดูแลเรามานะ พี่ดูแลน้อง น้องดูแลน้องต่อๆ กันไป
นี่ก็เหมือนกัน ในสังฆะๆ ถ้าเป็นธรรมๆ ใครทำมันก็เป็นธรรม ถ้าเป็นธรรมแล้วมันปกป้องดูแลกัน สังฆะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ให้ใครใหญ่ทั้งสิ้น ฝากไว้กับหมู่สงฆ์ๆ แต่หมู่สงฆ์ๆ พอคำว่า “หมู่สงฆ์” หลวงตาท่านพาทำๆ ไง ก็จะเอาหมู่สงฆ์เที่ยวไปตัดสินคนอื่น
หมู่สงฆ์ตัดสินหมู่สงฆ์นั้น หมู่สงฆ์นั้นทำสิ่งดีงาม เทวดา อินทร์ พรหมอนุโมทนา หมู่สงฆ์นั้น แล้วถ้าหมู่สงฆ์นั้นสะอาดบริสุทธิ์ หมู่สงฆ์นั้นมีคุณธรรมนะ ทุกคนเขาแสวงหาเอง หมู่สงฆ์นั้นไม่ต้องไประรานใคร หมู่สงฆ์นั้นไม่ต้องไปทำสิ่งใดทั้งสิ้น หมู่สงฆ์นั้นเพื่อหมู่สงฆ์นั้น เอวัง